หัวข้อ | |
---|---|
1
|
ศรัทธาในพระรัตนตรัย ศรัทธาในการปฏิบัติไม่หวั่นไหว หากศรัทธาในบุคคลย่อมหวั่นไหว [20-00] 48:54 |
2
|
การให้ทานอย่างไร อุทิศให้ผู้ตายถึงจะใด้รับผล [20-00] 51:43 |
3
|
ตอบคำถามจากทางบ้านเรื่อง เวทนา [21-00] 10:48 |
4
|
บุญแท้ๆคือความ สงบเย็น- วันพระที่ [20-00] 51:43 |
5
|
คนดีจริงๆไม่ได้หวาดหวั่นในการทำความดี [20-00] 50:25 |
6
|
ฟังธรรมบ่อยๆทำให้เกิดปัญญา [21-00] 24:27 |
7
|
มนุษย์ทั้งหลายอยู่ร่วมกันได้ก็เพราะความดี [20-00] 53:07 |
8
|
ความดีต่อกันอยู่กันได้ยืดยาวกว่า [20-00] 51:52 |
9
|
ฝึกภาวนาทรงฌานให้ได้เพื่อระงับความเจ็บป่วยเป็นพื้นฐานรักษากำลังใจให้ไม่ตาย [21-00] 20:10 |
10
|
พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าเป็นอจิณไตย [20-00] 46:30 |
11
|
หลักธรรมคำสอนแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างผู้รู้ [21-00] 25:20 |
12
|
เครื่องอยู่ของสมาธิรวมไปถึงการวิปัสนาแยกธาตุแยกขันท์ [21-00] 23:31 |
13
|
ในโลกนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของใครจริงสักอย่างแม้แต่ร่างกายเรา [20-00] 49:30 |
14
|
เคล็ดลับของชีวิตที่เป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวงคือผ่านความกลัว [20-00] 47:41 |
15
|
การสวดมนต์เป็นการรักษาคำสอนของพระพุทธเจ้าและเป็นแนวทางแห่งการพ้นทุกข์ [21-00] 21:14 |
16
|
ความเกี่ยวข้องในเรื่องของกรรมความผูกพันธ์ความอาลัยให้วางใจโดยใช้ทางสายกลาง [20-00] 50:35 |
17
|
ดับกิเลสก่อนดับไฟบนหัว [20-00] 33:02 |
18
|
ตัณหาคือความอยาก อุปาทานคือความยึด- ยึดในอุปาทาน ๔ [20-00] 55:08 |
19
|
ดับผัสสะ ดับจากใจ [09-00] 20:26 |
20
|
พระเจ้าปเสนทิโกศลคลายทิฏฐิ- หว่านพืชเช่นใดย่อมได้ผลเช่นนั้น [20-00] 47:12 |
21
|
ขันติคือความอดทนเป็นเครื่องข่มกิเลสอันเร่าร้อนอย่างยิ่ง [20-00] 46:54 |
22
|
พยายามควบคุมความคิดให้ชินกับกุศลให้มากที่สุด [21-00] 15:04 |
23
|
ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องบ่งชี้ความดีความชั่ว [20-00] 44:54 |
24
|
สติสำคัญที่สุด [21-00] 11:21 |
25
|
จิตคือความคิดของคนเราทำงานตลอดเวลา [20-00] 57:02 |
26
|
น้อมความคิดเห็นให้ตรงกับประสบการณ์จริงของตนกับคำสั่งสอนของครูอาจารย์ [21-00] 33:28 |
27
|
จงพยายามทำจิตให้ขาวรอบปลอดจากอกุศลทั้งปวง [20-00] 53:50 |
28
|
การภาวนาเป็นการปฏิบัติธรรมสูงสุด [21-00] 16:30 |
29
|
ศีลเป็นเครื่องรักษาผู้อื่น แต่เป็นการละกิเลสของตน [21-00] 10:26 |
30
|
นิพพาน- ดับความปราถนาใคร่อยาก เห็นความดับในตัวเอง [20-00] 31:44 |
31
|
หลักการกาลามสูตร อย่าเชื่อเพราะได้ยินได้ฟังสืบต่อกันมาใช้ข้อหลักของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องเปรียบเทียบ 42:40 |
32
|
กรรมอันไม่สมควรของพระพุทธเจ้านำมาเป็นข้อคิดปรับนำมาใช้กับเรื่องของตนเอง 49:55 |
33
|
นักภาวนาให้รู้เท่าทันความคิดตัวเอง [21-00] 27:44 |
34
|
องค์ภาวนาคือพระรัตนตรัยเอามากำกับใจไม่ให้ฟุ้งซ่านเพื่อให้สงบเกิดบุญ [21-00] 34:17 |
35
|
เน้นความคิดมากที่สุดจิตคิดถึงสิ่งใดก็ไปเกิดกับสิ่งนั้น [20-00] 41:37 |
36
|
ทาน ศีล ภาวนา แยกความละเอียดของบุญ [20-00] 45:24 |
37
|
โลภ โกรธ หลง ตกอยู่ภายใต้อารมณ์เหล่านี้ส่วนมากลงอบายภูมิ [21-00] 33:25 |
38
|
เรื่องของกรรม ลึกลับซับซ้อนเป็นอจินไตย [20-00] 42:21 |
39
|
การทำบุญให้แก่ผู้ตาย.จงทำด้วยของที่บริสุทธิ์อย่าไปฆ่า เป็ด ไก่ วัว ควาย จะปาบหนักเข้าไปอีก 19:46 |
40
|
การสร้างภพก่อนตายเป็นอย่างไร [20-00] 45:52 |
41
|
รู้เท่าทันจิตขณะใด ภพดับขณะนั้น [21-00] 19:51 |
42
|
การปฏิบัติธรรมอารมณ์ชั่ววูบทำให้เสียมากๆ [20-00] 43:13 |
43
|
เร่งรัดบารมีด้วยการทรงอารมณ์อันเป็นกุศลและพิจารณาร่างกาสให้เบื่อหน่ายคลายกำหนัด [21-00] 16:08 |
44
|
ความเสื่อม เสื่อมจากตัวบุคคล มิใช่ศาสนา [20-00] 42:45 |
45
|
นึกถึงคำบริกรรมและภาพพระตลอดเวลา [21-00] 22:10 |
46
|
คนเป็นหมดบุญ [20-00] 42:55 |
47
|
ทุกๆวันพระ นรกภูมิ อบายภูมิ เปิดให้ญาติๆมารับบุญ [09-00] 6:40 |
48
|
ลักษณะอาการปิติ ทั้ง ๕ [21-00] 25:27 |
49
|
เรื่องของกรรมแก้ให้กันไม่ได้ [20-00] 44:50 |
50
|
คนมีบุญเป็นแบบใด [20-00] 46:45 |
51
|
การรักศาสนาคือการละกิเลสตัณหาในตัวเอง [20-00] 44:07 |
52
|
ให้มี สติ- รู้ตัวตลอดเวลา [21-00] 17:08 |
53
|
ให้นึกถึงบุญมาช่วยเหลือตัวเอง พึ่งตน พึ่งธรรม [21-00] 5:45 |
54
|
ดับความคิด ดับภพ ดับชาติ 09 00 12:56 |